เที่ยวตานีฟาร์มแหล่งศึกษาเรียนรู้วิถีธรรมชาติ - สยามรัฐ

herb-dokterethaliani.blogspot.com

นักท่องเที่ยวหลายกลุ่มอาชีพสนใจเดินทางเที่ยวชม “ ตานีฟาร์ม ” ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังมีการต่อยอดจากศูนย์เรียนรู้บ้านช่างสกุลบายศรี ใช้ต้นกล้วยตานีสร้างผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า กลายเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่แบบวิถีธรรมชาติ

วันที่ 28 มิ.ย.63 บริเวณท้องทุ่งมีต้นไม้ขนาดใหญ่โอบล้อมมองไกล ๆ ดูร่มรื่นภายใน “ ตานีฟาร์ม ” บนเนื้อที่ 6 ไร่ บริเวณหมู่ที่ 4 บ้านสนามชัย ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ด้านหน้าจะมีไร่อ้อยกำลังแตกหน่ออยู่สองข้างทางดูเขียวขจี บรรยากาศการเดินทางเข้าชมสร้างสีสันด้วยการนั่งรถตุ๊ก ๆ สามล้อโบราณ เปิดเพลงลูกทุ่งแบบเร้าใจ เข้าไปชมด้านในที่ถูกจัดแบ่งพื้นที่ตามศาสตร์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อเดินผ่านเข้าไปด้านใน จะมีซุ้มจำหน่ายสินค้าภายในชุมชน มีทั้ง อาหารพื้นบ้าน ขนมโบราณ เต้าหู้ดำ ของดีขึ้นชื่อของ อ.โพธาราม ด้านข้างจะจัดแบ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์ เช่น ไก่ไข่ ไก่งวง นกหงส์หยกไว้ในกรงกำลังจิกกินอาหารอย่างสบายใจ มีคอกเลี้ยงวัว มีสระน้ำเลี้ยงปลา ปลูกพืชผักสวนครัว ส่วนบริเวณด้านหลังจะมีสะพานไม้ไผ่ทอดยาวไปตามร่องน้ำ มีต้นสมุนไพร และต้นกล้วยตานี รวมถึงต้นกล้วยอีกหลายสายพันธุ์ปลูกเรียงราย ต้นกล้วยเหล่านี้จะถูกตัดใบนำไปทำบายศรีงานพิธีกรรมต่าง ๆ ส่วนต้นนำมาลอกเป็นกาบออกตากแดดตัดเย็บเป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋า หมวก ที่สวยงาม ภายใต้แบรนด์ตานี เคยได้รับรางวัลชนะเลิศ OTOP KBO CONTEST ของการประกวดผลงานเครือข่ายองค์ความรู้ ( KBO ) จังหวัดดีเด่น ระดับประเทศ ปี 2562 จากกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นจุดกำเนิดจากศูนย์เรียนรู้บ้านช่างสกุลบายศรี ทำให้มีการต่อยอดแนวคิดสู่ขยายพื้นที่สร้างเป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ตามวิถีธรรมชาติที่ได้รวบรวมนำองค์ความรู้หลายแขนงมาร่วมไว้

นายธนกร สดใส อายุ 32 ปี เจ้าของตานีฟาร์ม เปิดเผยแนวคิดว่า ตานีฟาร์ม เป็นต้นน้ำหรือจุดเริ่มต้นของตานีแบรนด์ คือ กระเป๋ากาบกล้วยเสมือนหนัง จึง เปิดที่นี่เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ จะมีกิจกรรมที่เป็นองค์ความรู้ อาทิ การสกัดสี ย้อมสีผ้า สีเพ้นท์ สีทาบ้าน มีพืชสมุนไพรไทยพื้นบ้านมากมายที่สามารถใช้ประโยชน์นำมาเพิ่มมูลค่า สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ผู้ที่สนใจ หลังจากที่ได้มีการพัฒนาพื้นที่มากว่า 4 ปีแล้ว กับแนวคิดอยากทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนไฮไลท์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากกาบกล้วย และสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น ใบไม้ ต้นไม้ ให้กลายเป็นชิ้นงานที่สวยงาม มีการแบ่งพื้นที่ใช้หลักทฤษฎีดิน 10 คิว ใครมาที่ “ ตานีฟาร์ม ” จะเล่าเรื่องทฤษฎีของดินนี้ว่ามีการแบ่งแยกทำอะไรในที่ดินบ้าง โดยรายได้ที่เกิดขึ้นจะมีทั้งรายวัน รายเดือน รายปี และเป็นกองทุนได้อย่างไร ส่วนคนที่มีที่ดิน หรือไม่มีก็สามารถทำได้ เพราะทำเป็นเหมือน เอ็มโอ ยู ระหว่างคนที่มีที่กับคนที่ไม่มีที่ดินทำงานร่วมกันได้ ผลประโยชน์จึงแบ่งปันกัน

สำหรับทฤษฎีดิน 10 คิว ถอดมาจากพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 คือ 30 - 30 – 30 - 10 แต่ได้มาเรียกเป็นทฤษฎีดิน 10 คิวของตัวเอง จะเรียกให้แตกต่างให้คนรู้สึกน่าสนใจอย่างไรบ้าง จะมีพื้นที่เกษตร เลี้ยงสัตว์ อยู่อาศัย และพื้นที่น้ำ ที่ชวนให้คนสนใจ มีการรวบรวมศาสตร์ งานศิลปะ งานเกษตร งานสร้างสรรค์ต่อยอดเป็นงานนวัตกรรมอยู่ที่นี่ทั้งหมด จะเชิญวิทยากรฝ่ายที่มีองค์ความรู้ในด้านนั้น ๆ เข้ามาสอนที่นี่ เช่น นายก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ หรือ ครูเนตร ที่มาจากจังหวัดอุดรธานี เป็นปราชญ์ที่มีความรู้เรื่องการย้อมครามดังไปถึงประเทศญี่ปุ่นเข้ามาสอน ส่วนใหญ่คนที่มา จะเป็นผู้ประกอบการที่มีใจรักเรื่องการย้อมผ้า และยังเป็นกลุ่มครอบครัวสนใจพาลูกหลานเข้ามาเรียนรู้ เพื่อเป็นองค์ความรู้นำไปเป็นอาชีพต่อ และคนอยากได้อาชีพแต่ไม่รู้จะทำอะไร เมื่อมาที่ตานีฟาร์มแล้ว เหมือนได้สอนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตัวตนที่แท้จริง หรือที่เรียกว่า โนเลทเซ็นเตอร์ คือ สถานที่รวบรวมองค์ความรู้ไว้ทั้งหมด โดยแบรนด์ตานี เกิดมาจากศูนย์เรียนรู้บ้านช่างสกุลบายศรีที่ทำไว้ ได้รวบรวมศาสตร์ พิธีกรรม การแทงหยวกบายศรีเป็นงานโบราณดั้งเดิม และถูกต่อยอดเป็นตานีแบรนด์ ซึ่งทำจากต้นกล้วยตานีเป็นกระเป๋า นำงานโบราณทุนวัฒนธรรมมาสร้างสรรค์ด้วยนวัตกรรม และความแปลกใหม่ให้เป็นอาชีพได้ โดยการจัดงานได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. มาจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อการพัฒนาองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแบบคลัตเตอร์ ภายใต้โครงการสนับสนุนเครือข่าย SME ปี 2563 มีผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้หลากหลายกลุ่มอายุ เพื่อนำเอาความรู้ที่ได้ไปต่อยอดสร้างงานและอาชีพได้
สนใจกิจกรรมสร้างสรรค์ DIY ติดตามเฟซบุ๊ก Thanakorn เพจ Tanee only you หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่ 099-1499746